NichaNovember 20, 2016 at 1:37 amขอบคุณนะคะที่แชร์เรื่องราวของน้องไมล์ ได้เริ่มอ่านปั๊ปถึงกับหยุดอ่านไม่ได้เลย ลูกชายก็มีสมาธิสั้นค่ะ เริ่มพบหมอและทานยารักษามาตั้งแต่ 5 ขวบจนปัจจุบัน 9 ขวบแล้วค่ะ เรื่องแบบนี้ถ้าไม่ใช่พ่อแม่เด็กสมาธิสั้นก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะ เพราะคนส่วนใหญ่ก็ยึดเอาความเห็นตัวเองเป็นบรรทัดฐาน อย่างที่เขาคิดว่า คนทั่วไปย่อมรู้และเข้าใจรูปแบบการเข้าสังคมดี ซึ่งหากมีใครไม่ปฏิบัติตาม เขาก็จะถือว่า “จงใจฝ่าฝืน” ทันที และกลายเป็นหมาหัวเน่าไปซะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมเขาไม่คิดบ้างว่า เพื่อนบางคนอาจไม่รู้ไม่เข้าใจจริงๆก็ได้นะ แทนที่จะมัวแต่กล่าวหาว่า “รู้แต่จงใจฝ่าฝืน ต้องแบน” อะไรแบบนี้ ทำไมไม่บอกกล่าวแนะนำก่อน ทำไมต้องใจแคบกันนัก ทีเวลาลูกเราโดนแกล้งเรายังบอกลูกให้อภัยเลยเพราะเพื่อนๆลูกก็ยังเด็กแค่ 9 ขวบอาจทำไปโดยไม่คิดก็ได้ ลูกเรารักเพื่อนค่ะ ออกจะปกป้องเพื่อนด้วยซ้ำ คงเพราะเขาอยากมีเพื่อนเหมือนน้องไมล์ แม่เองก็อยากให้ลูกเป็นคนคิดดีทำดี แม้จะต้องเสียเปรียบบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่า ความดีจะคุ้มครองชีวิตเขาให้เป็นสุข แต่แม่เองก็อดใจหายไม่ได้เวลาเห็นเด็กๆอายุยังน้อยๆแต่กลับสนุกกับการหาเหยื่อไว้คอยทำร้าย คอยใส่ร้าย เพื่อความบังเทิงใจสะใจ คือ ใจร้ายอะ ยังคิดว่าเราใช้ขีวิตมาจนจะวัยกลางคนแล้วใจเรายังใสซื่อกว่าเด็กพวกนี้เลย มันเป็นไปได้ยังไง!!! เกิดอะไรขึ้นกับสังคม ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ที่สอนกันในวิชาจริยธรรมนี่ท่องไว้สอบเท่านั้นหรือ ? ในเมื่อในตำราเรียนก็สอนแล้วเด็กก็อปปี้แบบของความแล้งน้ำใจมาจากไหน ? เด็กเลียนแบบวิธีเอาตัวรอดทางสังคมจากใคร ? พ่อแม่ พี่เลี้ยง หรือว่าครู ? สมัยก่อนถ้าเราแค่หยิบยื่นน้ำใจให้กันเราก็กลายเป็นเพื่อนกันแล้ว แต่ปัจจุบันถ้าเด็กคนไหนเอาของมาแจกเพื่อนๆ แล้วสามารถล่าหาใครซักคนมาเป็นเหยื่อให้ตนเองและเพื่อนรุมแกล้งเอาสนุกได้ เด็กคนนั้นจะได้รับการยอมรับนับถือ เพื่อนๆจะพร้อมใจกันช่วยโกหกครูเพื่อปกป้องเด็กคนนั้น ต้องถามว่า…ต้นแบบคือใคร ? เห็นพ่อแม่ก็คอยซื้อขนมมาฝากครูจัง เรื่องศีลธรรมนี่ตำราเรียนไม่ช่วยอะไรเลยค่ะ อยู่ที่ต้นแบบล้วนๆ เด็กสมาธิสั้นอย่างลูกเราข้อดีคือจิตใจที่บริสุทธิ์ค่ะ เพราะเขาไม่เข้าใจการเข้าสังคมด้วยการติดสินบนค่ะ มันซับซ้อนสำหรับเขา ใครได้เขาเป็นเพื่อนนี่โชคดีมากนะคะ เพราะเขาไม่รู้วิธีหักหลังใคร ที่จริงเขาเกิดมาพร้อมความใสซื่อค่ะ ที่เหลือเราแค่สอนให้แยกถูกผิดดีชั่วให้ออก เขาก็จะเป็นคนดี เป็นลูกที่ดี เป็นสามีที่ดี และเป็นพ่อที่ดีได้ในแบบที่ไม่มีเฉไฉแอบไปทำผิดทำชั่วที่ไหนเลยจริงๆ ยังไงก็ยังดีกว่าคนสติปัญญาดีพร้อม ที่ฉลาดล้ำจนข้ามเส้นของความถูกต้องตลอด ไม่แยกแยะถูกผิดนะคะ เราสอนให้ลูกอภัย ปล่อยวางได้ ใจลูกเราก็เป็นสุขค่ะ ลูกชายชอบดนตรีเหมือนกันค่ะ ดนตรีเป็นทางออกทางอารมณ์ที่ดีมาก เป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวเขามาจริงๆ เพื่อนเด็ก ช บางคนก็มีอิจฉาเขานะคะ เพราะเพื่อน ญ ชอบฟังเขาเล่นเพลง เราคงไปดับความอิจฉาใครไม่ได้ เด็กนั่นถึงขั้นป่าวประกาศว่า ลูกเรากินยาบ้า บอกเพื่อนๆว่าโตขึ้นลูกเราจะฆ่าคน ลูกเรางงค่ะ…เพราะขนาดเจอหนอนตรงทางเดิน…เขายังสงสารกลัวคนเดินเหยียบเลย ผิดกับเด็กนั่นที่เดินมาเหยียบหนอนตายหน้าตาเฉยแถมบอกว่า “ก็แค่สัตว์ ทำไมต้องโกรธด้วย” ตอนลูกเรายังเล็ก 6-7 ขวบ เขาก็เหยียบหนอนตายนะคะ เราก็แสดงความเสียใจมากที่เขาทำอย่างนั้น เราสมมติให้เขาเป็นหนอนซักตัวแล้วจะรู้สึกอย่างไร ขัดเกลาไปเรื่อยๆจนปัจจุบันเขากลายเป็นคนอ่อนโยนมีเมตตาต่อสัตว์มาก ต่างกับเด็กนั่น 9 ขวบแล้วยังฆ่าสัตว์เล่นอยู่เลย แล้วยังกล้าไปบอกใครๆว่า ลูกเราโตขึ้นจะฆ่าคน ที่จริงดูก็รู้ว่า พ่อแม่เด็กสอนให้ลูกมองเพื่อนอย่างนั้น เพราะเด็ก 9 ขวบคงไม่มีใครไปรู้เรื่องยาสมาธิสั้นหรอกนอกจากผู้ใหญ่บอก ถูกไหมคะ แต่ลูกเราทานยาโด๊สต่ำกว่า นน. ตัวมากเลยนะคะ เป็นความร่วมมือระหว่างคุณป้าหมอ กะ พ่อแม่ ว่า เราจะไม่ใช้ยากดอย่างเดียว แต่ใช้การบำบัดพฤติกรรม แนะแนวทางให้เด็กค่ะ สอนให้เด็กเข้าใจและควบคุมอารมณ์ สติ แยกแยะถูกผิด และยับยั้งตัวเองให้ได้ ที่จริงเด็กทุกคนควรต้องได้รับการฝึกพวกนี้นะคะไม่ใช่แค่เด็กสมาธิสั้น มันสำคัญมาก แต่กลายเป็นเมื่อเด็กสมาธิสั้นและพ่อแม่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับหมอมากกว่า ก็ได้โอกาสฝึกมากกว่า เด็กปกติที่ห่างหมอกลับไม่ได้รับการฝึกด้านอารมณ์แบบนี้เท่าไหร่ หลายๆคนเลยแปลความไม่พอใจ อิจฉา ไปเป็นการแสดงความโกรธเกรี้ยว ทำร้ายผู้อื่นให้เสียหายเพราะไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้ หนักยิ่งกว่าเด็กสมาธิสั้นที่บำบัดแล้วซะอีกค่ะ ยิ่งโตก็จะยิ่งเห็นพฤติกรรมต่างๆเด่นชัดขึ้น สำหรับลูกเรา…คุณหมอบอกว่า อีกหน่อยก็เลิกทานยาได้ เพราะเขาถูกฝึกให้คิดเป็นมีสติยับยั้ง เขาทำได้ดีมาก เราเป็นแม่ก็เบาใจ ก็ได้แต่แนะลูกว่า “เพื่อนคนไหนคิดร้ายเรา…เราก็แค่ห่างๆเขานะ ชีวิตเราจะได้สุขสงบ อย่าไปโกรธ ไปเถียง ไปต่อกร เพราะมันไม่เกิดประโยชน์ ลูกเองก็มีสิทธิ์เลือกเพื่อนเหมือนกัน” เราต้องคอยให้กำลังใจ และเพิ่มความเชื่อมั่นให้ลูกนะคะ เพราะสภาพแวดล้อมที่ รร ทำให้เขาสูญเสียความเชื่อมั่นหนักพออยู่แล้ว ครูหลายๆคนก็ยังเอาความคิดตัวเองเป็นบรรทัดฐานแบบเด็กๆ…มีแค่ผิดกับถูก ทั้งที่ครูมีหน้าที่สอนไม่ใช่ตัดสิน เด็กๆที่เลียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่ เช่น การติดสินบน เล่นพรรคเล่นพวก อิจฉาริษยาและต้องการเอาชนะด้วยวิธีการสกปรก อย่าง ขุดปมด้อยคนอื่นมาประจาน รวมถึงการโกหกเพื่อให้ร้ายผู้อื่น หรือ เพื่อเอาตัวรอด คือ…ถ้าสมมติว่า ลูกเราไม่ชอบเพื่อนคนไหนเพราะรู้สึกอิจฉาที่เพื่อนเก่งกว่า เราก็คงบอกให้ลูกรู้ตัวรู้ทันอารมณ์อิจฉาของตัวเอง แล้วสนับสนุนให้ลูกแก้ไขเรื่องนี้ด้วยการเอาเวลาไปฝึกฝนตัวเองให้เก่งขึ้นนะ ให้เก่งจนตัวเองพอใจไปเลย ไม่ใช่ไปช่วยลูกหาข้อมูลยาสมาธิสั้นแล้วบอกให้ลูกไปประจานเพื่อนที่ รร คือ พ่อแม่บางคนสอนลูกไม่แมนเลยจริงๆ ? เราว่าเด็กแบบนี้น่าห่วงกว่าอีกค่ะ โตขึ้นใครได้ร่วมงานคงโดนไม่ต่างกัน สุดท้าย คือ ใครทำอะไร…ก็ย่อมได้อย่างนั้นค่ะ น้องไมล์เก่งมากนะคะ น้องเอาชนะตัวเองได้ คุณพ่อคุณแม่ก็เก่งมากที่ผ่านทุกความรู้สึกมาได้อย่างแกร่ง ผลักดันเอาความสามารถของน้องมาเพิ่มความมั่นใจให้น้องมากๆนะคะ เด็กสมาธิสั้นต้องเจอกับเรื่องแย่ที่บั่นทอนจิตใจเขามากกว่าที่เขาเล่าให้เราฟังเยอะเลย เพราะเขามักลืมเล่าหลายๆอย่าง แต่ที่แย่ คือ เขากลับไม่ลืมความรู้สึกด้อยค่าไม่เป็นที่ต้องการเหล่านั้นไปด้วย ? เราบอกลูกเสมอว่า “ลูกมีค่ากับครอบครัวเราแค่ไหน ตราบใดที่ลูกมีจิตใจที่ดีติดตัว เพื่อนที่รายล้อมลูกก็จะเป็นมิตรที่ดี ไม่ต้องพยายามวิ่งหาใครมาเป็นเพื่อนหรอก เพื่อนที่ดีจะเห็นความดีในตัวลูกแล้วจะมาอยู่ข้างๆเราเอง โดยไม่ต้องวิ่งตาม” สู้ๆค่ะ ขอเป็นอีกกำลังใจให้นะคะ Log in to Reply
PiyaratJune 28, 2016 at 7:05 pmขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องราวของน้องไมล์ที่มีประโยชน์มากๆ ….ตอนนี้กำลังให้ลูกเรียนพิเศษเพื่อสอบเข้า ม.1 EP รร.ชื่อดังแห่งหนึ่ง ความกังวลใจคือ ลูกสมาธิค่อนข้างสั้นเช่นเดียวกัน บทเรียนจากน้องไมล์จะช่วยให้พยายามเข้าใจลูกมากขึ้นค่ะ…ขอบคุณจริงๆ Log in to Reply
benjawanMarch 1, 2016 at 10:53 pmขอบคุณค่ะ ดีใจที่ทำให้ได้อ่านบทความนี้ ตอนนี้กำลังหาโรงเรียนให้ลูกกำลังจะขึ้น ม.1 ปีการศึกษา 59 พาลูกไปเรียนพิเศษแถวพญาไท เหมือนกันค่ะ เห็นเด็ก ๆ เขาติวกันแล้ว ส่งข้าว ส่งน้ำ เฮ้อ…สังคมไทย มาก เยอะ เราก็ส่งด้วย มันคงคนละสมัยกะเรา ส่วนตัวไม่รู้จักโรคนี้แต่อยากให้มี ชมรม หรือสมาคม สำหรับเด็กกลุ่มนี้ เพื่อช่วยดูแลกัน ปัจจุบันมีหรือเปล่าไม่รู้ค่ะ แบบสมาคม ของวิชาชีพอื่น ๆ น่ะค่ะ Log in to Reply
datamumOctober 26, 2015 at 6:54 pmขอบคุณเรื่องของไมล์ค่ะ ทำให้ต้องมาทบทวนพฤติกรรมหลายๆอย่างของลูกว่าคล้ายไมล์ มา เช่นชอบแกล้ง ไม่ส่งการบ้าน บางทีครูบอกว่าเห็นทำแล้วนะแต่ไม่ส่ง หรือทำแบบไม่สนใจทำขอให้แค่เสร็จๆเท่านั้น เล่นแรงถึงแรงมาก จนถูกฟ้องว่าทำร้ายร่างกายเพื่อน ทั้งๆที่ครูบอกว่าน้องเป็นเด็กจิตใจดีนะ แต่เล่นแรงและขี้โมโห เพื่อนในห้องไม่ค่อยเล่น จะมีเพื่อนต่างชั้นเรียน ที่คุณแม่รู้สึกแย่ที่สุดคือลูกคิดว่าคนอื่นโง่ไม่เก่ง อันนี้เข้าข่ายผิดปกติหรือไม่คะ ลองโทรไปนัดพบจิตแพทย์เด็กที่รามา รอคิวเกือบปีเลย มีที่ไหนแนะนำบ้างรึป่าวคะ Log in to Reply
TipJuly 29, 2015 at 10:42 amเพิ่งได้มีโอกาส มาอ่านบทความของน้องไมค์ แอบชื่นชม ทางบ้านทั้งคุณพ่อ และ คุณแม่ของน้องมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งมองสะท้อน ถึงสังคม และ ทางเราเอง ลูกอายุ 4 ขวบ แอบหวั่น ๆ อาการสมาธิสั้นอยู่เหมือนกันค่ะ… พยายามถามคุณหมอ และ คุณครู อยู่เหมือนกัน ถ้าเป็นทางเราไม่อายเลยค่ะ ยินดีที่จะรักษา และ คอยให้ความรัก ความอบอุ่น ลูกเสมอมา … Log in to Reply
VanidaJuly 8, 2015 at 9:29 amขอยคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ เด็กๆเราเป็นเด็กเก่งเด็กดีในรร. รัฐบาลเล็กๆ (ประถม – ย้ายมาเรียนป. 3 เพราะพ่อแม่เลิกกัน) โดยเพื่อนแกล้งเพื่อนอิจฉาตลอดเลยค่ะ แต่เราก็ผ่านมาได้ ดีใจมากที่จบจากรร.นั้นไป พอขึ้นมัธยม รร.ใหญ่ขึ้นมาก เราก็มีเพื่อนเป็นเด็กเรียนเหมือนกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เวลาทำงานกลุ่มมักจะต้องกระโดดไปทำหลายกลุ่ม เพราะบางทีคนเกิน เนื่องจากมีภูมิมาก่อนว่าไม่ต้องยึดติดกับเพื่อนกลุ่มเดิมๆ เลยสามารถข้ามกลุ่มไปทำงานกับเพื่อนใหม่ได้เสมอ แต่จนถึงทุกวันเราก็ไม่ค่อยมีเพื่อนค่ะ เพราะมีโลกส่วนตัวสูง กลัวว่าลูกชายจะเป็นเหมือนกันเพราะเค้าก็เป็นแบบนี้ Log in to Reply
PlaFebruary 2, 2015 at 12:25 amนับว่าเป็นการบอกเล่าที่ดีมากเลยค่ะ จากที่ดิฉัน สับสนอยู่หลายสัปดาห์ว่าจะแนะนำลูกอย่างไรดี ในการเลือกเรียนที่ไหน และจะเรียนอะไร หลังจากได้อ่านประสบการณ์ของคุณหมอแล้ว ตอนนี้ดิฉันได้คำตอบแล้วค่ะ ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยค่ะ. ที่เล่าประสบการ์ของท่านให้ฟัง. ทำให้ดิฉันได้ความรู้. และได้รู้อะไรหลายๆอย่างในการเลี้ยงดูลูก. อย่างไรก้อขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ แล้วไม่ทราบตอนนี้น้องไมล์. เป็นอย่างไรบ้างค่ะ Log in to Reply
momcapsuleOctober 7, 2014 at 2:11 pmเป็นบทความที่ดีมากเลยค่ะ น้องแคปซูลก็เจอเหตุการณ์เดียวกันเลยค่ะ เพื่่่อนบางคนเหมือนกันค่ะ แบบนี้เลยค่ะ และครูเลือกที่จะเชื่อฟังเด็กที่พูดเก่งๆ เราเลือกสู้ัก่อน โดยส่งครูประกบไปเพื่อเป็นหูเป็นตาแทนเรา ความตึงเครียดต่างๆ ที่มีต่อเด็กจึงหายไป เด็กปกติก็อาจถูกบีบให้คลั่งได้ ขนาดผู้ใหญ่ยังแทบไม่ไหวเลยนะคะ อ่านๆ เรื่องของคุณหมู น้ำตาไหลเลยค่ะ ช่างเหมือนกัน เด็กสมัยนี้ร้ายค่ะ บ้านเราก็เหมือนคุณหมอ คือไม่ฟังความข้างเดียว ไม่เชื่อลูกตัวเองอย่างเดียว และไม่เชื่อเด็กคนอื่นอย่างเดียว และครูก็ยังเชื่อไม่ได้ ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเอง หรือว่าส่งคนที่เป็นคนกลางไปพิสูจน์ ตอนนี้กำลังคิดเหมือนคุณหมอว่าจะตัดสินใจหนีจากสังคมแย่ๆ ดีหรือไม่ เพราะเราเปลี่่ยนคนอื่นไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนตัวเราเองได้ สู้ๆ นะคะ (บอกกับตัวเองด้วย) Log in to Reply
ChanApril 9, 2014 at 9:20 amขอบคุณสำหรับบทความดีๆ เพื่อเตือนสติคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมุ่งหวังให้ลูกสอบเข้าเรียนโรงเรียนดัง เพราะสังคมทุกวันนี้แข่งขันกันแต่เรื่อง IQ ไม่สนใจเรื่อง EQ ซึ่งควรจะพัฒนาไปพร้อมๆกัน ลูกชายดิฉันก็มีลักษณะเข้าข่ายเด็กสมาธิสั้น หมักหมมงาน ไม่ส่งการบ้าน ชอบแกล้งเพื่อน แหย่เพื่อน ไม่อยู่นิ่ง ไม่ฟังครูสอน ฟังได้ไม่นาน อ่านหนังสือได้ไม่นาน หลับขณะเรียน มีความสุขระรื่นตลอดเวลา จนเพื่อนไม่อยากให้นั่งใกล้ด้วย สุดท้ายครูต้องนั่งคนเดียวหลังห้อง แต่คุณแม่ก็พยายามจะเข้าใจเขาค่ะ ไม่ให้เรียนกวดวิชามากมายเหมือนเพื่อนๆ เรียนคณิตอย่างเดียวเพราะเขาชอบ และให้เขาเรียนวาดรูปมาปีกว่าแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาชอบเหมือนกันเพื่อฝึกสมาธิให้นิ่งก่อน เขาเริ่มดีขึ้นค่ะ อ่านหนังสือได้นานขึ้น ปีหน้าเขาจะสอบเข้า ม.1 ก็ต้องลุ้นกันต่อไป ท้ายที่สุดก็คงต้องดูความพร้อมและความสุขของเด็ก ไม่ใช่ความต้องการของพ่อแม่เช่นกัน Log in to Reply
naritMarch 25, 2014 at 10:17 amขอคำปรึกษาด้วยคนจาก รุ่น ” ปลื้มปิติ” ขอเบอรโทรนะคะ อยากปรึกษาจริงๆคะ ส่งมาทางเมลฺนะคะ donwai2012@hotmail.com Log in to Reply
kanokwanMarch 18, 2014 at 2:33 pmมีลูกชายที่มีลักษณะแบบนี้เหมือนกัน แต่สังเกตุเห็นความผิดปกติตั้งแต่ 2 ขวบ และเริ่มไปพบหมอจิตเวชเด็ก 10 ปี ตอนนี้จบม.6 เตรียมเข้ามหาวิทยาลัย ขอแสดงความคิดเห็น และชื่นชมความรักในครอบครัวที่มีให้กัน และอยากแชร์ประสพการณ์ว่าสิ่งสำคัญสำหรับเด็กพิเศษคือสังเกตุความผิดปกติให้เร็ว พบหมอ ขอความเข้าใจและความรักจากคนในครอบครัวสำคัญมาก และทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีค่ะ Log in to Reply
NanJanuary 17, 2014 at 7:00 pmน้องไมล์เป็นเด็กอัจฉริยะหรือเปล่าคะ ลองอ่านบทความนี้ดูนะคะ http://www.oknation.net/blog/print.php?id=630844 Log in to Reply
KANTAPONNovember 3, 2013 at 3:39 pmเข้าใจเลยครับว่าเด็กที่มีปัญหากับการปรับตัวเป็นอย่างไร แม้ไม่ได้เป็นทั้งสองโรค แต่เมื่อสมันยังเด็ก ก็ไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทเหมือนกัน แต่ยังดีหน่อยที่เพื่อนๆให้เข้ากลุ่ม เวลาเราอยู่ในห้องที่เด็กเก่งมากๆ เราต้องพยายามทุกวิถีทาง ความกดดันทั้งเรื่องเกรดเรื่องคะแนน บางคนก็ต้องมีความเห็นแก่ตัวอย่างมาก เพื่อนบางคนทำคะแนนได้น้อย ถึงกับร้องไห้ เพราะว่ากลัวพ่อแม่ว่า แต่ก็ขอชื่นชมทั้งคุณพ่อ คุณแม่และน้องไมล์ ที่ต่อสู้จนหลุดออกมาจากที่แบบนั้นได้ ไม่รู้สึกอาฆาต แถมยังแผ่เมตตาให้ด้วย ผมคิดว่าคุณทั้งสองสอนลูกได้ดีมากทีเดียว แม้ตอนแรก อาจจะยังไม่เข้าใจลูก เป็นกำลังใจให้ครับ Log in to Reply
tarinNovember 3, 2013 at 3:04 pmขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ ลูกมีสมาธิสั้น และหมอบอกว่าน่าจะเป็นโรคนี้ด้วย เพื่อนน้อย แต่ก็พอมีเพื่อนอยู่บ้าง เขาเป็นคนที่ฉลาดมาก แต่ผิดกับน้องไมล์ตรงที่เขาไม่ค่อยชอบเรียน และไม่มีความสนใจอะไรเป็นพิเศษเลย เขาจะเปลี่ยนความสนใจไปเรื่อยๆ ที่น่ากลัวคือตอนนี้เขาเริ่มติดเกมคอมพิวเตอร์ ใช้เวลามากมายอยู่กับคอมพิวเตอร์ แม้ว่าเราจะ พยายามหากิจกรรมอะไรให้เขาทำเขาก็ไม่สามารถออกจากเกม และคอมพิวเตอร์ได้ หหมอเองก็ทำท่าจะถอดใจ ดิฉันเป็นคนเดียวในบ้านที่เชื่อเรื่องเวรกรรม หันเข้าหาทางธรรม เคยสอนให้ลูกแผ่เมตตา สวดมนต์ เมื่อเล็กๆ มาบัดนี้เขาก็ไม่ทำแล้ว บางครั้งก็ท้อมาก ก็ได้อาศัยธรรมะเป็นที่พึ่งที่อาศัย เฝ้ารอว่าวิบากดีวันไหนจะส่งผล มิฉะนั้นคงไม่มีที่พึ่งที่ไหนอีกแล้ว Log in to Reply
เฟื่องOctober 24, 2013 at 12:07 amชีวิตหนูเป็นประมาณนี้เลยค่่ะ พวกเข้าสังคมยาก เพื่อนไม่คบ ครอบครัวก็ไม่เคยใส่ใจหนู ลูกชังหนะค่่ะ ตอนนี้นี้มอ6จะเอ็นแล้วก็ยังเป็นอยู่ค่่ะ แต่ปลงแล้วค่่ะ คิดในแง่ดีอีกเทอมเราก็จบแล้ว ดีใจกับน้องด้วยค่่ะที่มีครอบครัวที่ดีมาก ถึงตอนหนูมีครอบครัวเมื่อไหร่หนูจะเอาใจใส่ลูกให้มากๆ จะได้ไม่ต้องมาเป็นแบบหนู^^ Log in to Reply
tikOctober 10, 2013 at 9:50 amที่อ่านดู และ ดูประวัติของผู้เขียน น่าจะเกิดจากความคาดหวังในตัวลูก จึงอยากแนะนำให้ศึกษา แนวทางเลี้ยงลูก floortime แต่ต้องมีเวลาให้ลูกจริงๆ ถ้าอยากช่วยลูก Log in to Reply
STJuly 23, 2013 at 7:47 pmต้องรอดูผลครับ แต่ส่วนตัวผมว่าน้องน่าจะเหมาะกับ รร เล็กๆ class size ไม่เกิน 20 คนต่อห้อง ที่ครูเอาใจใส่ใกล้ชิดมากกว่าจะย้ายไป รร ขนาดใหญ่อีกแห่ง เพราะเมื่ออยู่ gifted ที่หนึ่งแล้วย้ายไป GATE (ก็คือ Gifted นั่นแหละ) ไม่น่าจะช่วยอะไรเลย เพราะเป็นเด็กกลุ่ม profile แบบเดียวกัน สวนกุหลาบ ก็ใหญ่เกินกว่าจะดูแลเด็กพิเศษไหว ขณะที่อีกสมมติฐานของคุณพ่อ ที่คิดว่าจะเป็นจากเด็กผู้หญิง จึงย้ายเข้าชายล้วนจะแก้ได้นั้น คงต้องรอดูต่อไป แต่ผมคิดว่าเด็กก็คือเด็ก จะมีความคิดเหมือนกัน แต่เด็ก ญ เค้าแสดงออกมากกว่า จุกจิกมากกว่าเท่านั้น Log in to Reply
NitmanJune 22, 2013 at 10:51 amขอบคุณครับ สำหรับบทความดีๆ เป็นอีกหนึ่งกำลังใจครับ และยินดีมากๆ ครับที่ลูกคุณหมอได้อยู่ร่วมรุ่น “ปราสาทเขาพระวิหาร” กับลูกชายผมครับ Log in to Reply
Tue_chatJune 12, 2013 at 3:09 pmมีภาดต่อรึยังครับคุณหมอปัจจุบันเข้าเรียนสวนกุหลาบแล้วมีพัฒนาการเป็นอย่างไรกับสังคมใหม่ซึ่งเป็นเด็กชายล้วน รึว่าต้องรออีกสักพักก่อน Log in to Reply
ชัยปกรณ์ พุทธธีรภาพJune 11, 2013 at 5:12 pmยินดีต้อนรับน้องสวน ไมล์ จากพี่ ช่อน OSK 107 Log in to Reply
BunruangJune 11, 2013 at 11:47 amขอคุณสาระประโยชน์ดีนี้มากเลยครับ ผมก็เป็นทั้งพ่อและลูกเหมือนกัน ในฐานะลูก เราต่างก็ผ่านวัยเรียนกันมาแล้ว แต่ในฐานะพ่อ ทำให้ผมได้ข้อคิดที่ดี ในการทำหน้าที่ของพ่อที่ดีต่อไป อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ จบลงแบบไหนไม่สำคัญ แต่ผมได้เร็วความรัก ความสามัคคี ความแน่นแฟ้นของครอบครัว ตื้นตันใจจริงๆครับ ผมขอวยพรให้คุณและครอบครัว จงประสบแต่สิ่งที่ดีดี บุญรักษาครับ Log in to Reply
PinijJune 11, 2013 at 10:41 amขอเอาใจช่วยครับ ผมคนหนึ่งที่รักลูกมากๆ แต่ผมคงจะเดินคนละทางกับคุณ คือผมคงไม่มุ่งหวังให้ลูกต้องเรียนเก่งและต้องเข้าโรงเรียนดีๆ ดังๆ ผมอยากให้ลูกมีความสุขตามสภาพ และผมจะสอนลูกอยู่ที่บ้าน (โฮมสคลู ลูกผมเป็นชายทั้งคู่ 4 ขวบครึ่ง กะ 2ขวบ) และคนโตอาจมีสมาธิสั้นเล็กๆ (?) เหมือนไมล์ (ในการคาดเดาของผม และคิดว่าจะพาไปให้จิตรแพทย์เซ็คเร็วๆ นี้) ขอขอบคุณคุณหมอที่เอาเรื่องของไมล์มาเป็นกรณีศึกษาให้ผมได้อ่านครับ Log in to Reply
JarupatraMay 4, 2013 at 9:25 amโรคนี้วินิจฉัยยากจริงค่ะ โดยเฉพาะถ้าเด็กมีอาการไม่มาก เด็กที่เป็นแต่ไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่แรกมักจะมีปัญหาแบบน้องไมล์ มีแพทย์เยอะแยะที่missไปเพราะคิดว่าเป็นเพียงปัญหาพฤติกรรมการปรับตัวของเด็ก แต่โดยทั่วไปก่อนที่จะวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ได้ต้องสังเกตุพฤติกรรมอย่างน้อยหลายเดือนหรือเป็นปีค่ะ ไม่ทราบว่าตอนนี้น้องเข้าgiftedสวน แล้วเป็นอย่างไรบ้าง(โดยส่วนตัวไม่ค่อยเห็นด้วยนะคะที่ให้น้องเข้าเรียนแบบgifted แต่เห็นด้วยที่ให้น้องเข้ารร.ชายล้วน) Log in to Reply
kittiMay 2, 2013 at 7:45 amผมเองก็มีลูกชายเป็นสมาธิสั้นครับ ขึ้น ป.6 และจะเข้า ม.1 ในปีหน้า ปัจจุบันกิน concerta ไปเรียนวันละ 1 เม็ด กับเพื่อนไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่(อาจเป็นเพราะยาที่ทำให้เขาสงบ) การเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่มีปัญหากับการส่งการบ้านที่ชอบหมกและไม่ค่อยส่งงานครูทั้งๆ ที่บางทีก็ทำเสร็จแต่ไม่ส่ง ผมเจอกับเพื่อนที่มีลูกเป็นสมาธิสั้นก็เล่าให้ฟังว่าลูกเขาก็เป็นเหมือนกัน ดองงานวิชาวิทยาศาสตร์จนพ่อกับแม่ต้องมาช่วยทำไม่งั้นครูไม่ให้สอบปลายภาคเอา อีกปัญหาหนึ่งที่ผมพบคือสภาพของการทำข้อสอบที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย คืออยู่ที่บ้านฝึกทำข้อสอบจะเก่งมาก สามารถทำข้อสอบแข่งขันต่างๆได้ในเกณฑ์ที่ดี แต่พอไปสอบจริงกลับไม่สามารถทำได้อย่างที่ฝึก สำหรับเด็กสมาธิสั้นผมเป็นห่วงในเรื่องของเพื่อนนี่แหละครับ ก็เลยคิดกับภรรยายว่าจะไม่ให้เขาไปเรียนที่ กรุงเทพฯ หรือ โรงเรียนประจำ จะให้เรียนอยู่ในโรงเรียนประจำจังหวัดนี่แหละ เพราะเด็กช่วง ม.ต้น กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่สำคัญเขาเป็นเด็กสมาธิสั้นซึ่งส่วนใหญ่จะมีปัญหาในเรื่องของพฤติกรรมที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษ สำหรับเรื่องส่งลูกไปเรียนโรงเรียนมีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ ในระดับ ม.ต้น ผมไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะเรียน Gifted หรือ Gate Program ซึ่งมีค่าเทอมที่แพงมาก ก็ต้องไปเสียเงินให้โรงเรียนกวดวิชาเหมือนกัน ผมมีเพื่อนที่ทำงาน ลูกชายเขาก็อยู่ในกลุ่มของเด็กแข่งได้รับรางวัลในระดับประถมมากมายพอสมควร พอจบป.6 ก็ไปเข้า Gate Program นั่งรถตู้ไปเช้าเย็นกลับที่ นครปฐม แต่เด็กก็ยังต้องกวดวิชาทุกเสาร์อาทิตย์ แน่นอนว่าไปเรียนที่นั่นคนเก่งเยอะมาก เด็กก็ไม่สามารถที่จะเป็นตัวแทนโรงเรียน สอบ สอวน. กว่าจะผ่านได้ก็ต้องรอจนถึง ม.3 และก็ได้แค่รอบที่ 1 ส่วนเพื่อนๆ ของเขาที่เรียนได้พอๆ กัน พ่อแม่ให้เรียนแค่โรงเรียนประจำจังหวัด กลับประสบความสำเร็จในการเรียนที่ดีกว่าได้เป็นตัวแทนโรงเรียนไปสอบแข่งขันในรายการต่างๆ ตลอด (เพราะการสอบบางอย่างต้องสอบในนามโรงเรียนเท่านั้นเช่น TUGMOS,MWIT SQUARE,เพชรยอดมงกุฏ) การสอบ สอวน. ก็ได้เป็นตัวแทนศูนย์ไปแข่งโอลิมปิคระดับชาติ(เพราะแข่งกันเฉพาะเด็กในโซนภูมิภาค) เด็กต่างจังหวัดบางคนเข้าค่าย สอวน.ตั้งแต่ ม.1- ม.3 ปีละวิชาเลยก็มี ที่สำคัญค่าเทอมก็ถูกกว่า ท้ายที่สุดเด็กทั้งหมดสอบเข้าได้ที่มหิดลวิทยานุสรณ์เหมือนกันทั้งหมด สรุปผมให้ลูกเรียนที่ต่างจังหวัดนี่แหละครับ ไม่ต้องเจอปัญหารถติด ไม่ต้องจ่ายแพง ไม่ต้องซื้อคอนโด มีค่าย สอวน.ที่สอบไม่ยากมากให้ลูกฝึกฝน โรงเรียนกวดวิชาก็มีให้เรียนเหมือนกัน… Log in to Reply
KnabiApril 2, 2013 at 3:21 pmผมอ่านเรื่องลูกของคุณหมอแล้ว คิดว่า. ระบบโรงเรียนของเราหล่อหลอมมาเพื่อแข่งขัน. ไม่ได้ส่งเสริมจริยธรรมของเด็กเลย. ทำให้เกิดเด็กเก่งจากการกวดวิชา. โดยที่ไม่มีวุฒิภาวะที่เหมาะสมเลย. เช่นใช้คำหยาบ. อิจฉาลูกคุณหมอขนากทำได้ทุกอย่าง. ขณะเดียวกันผมก็อยากติดตามพัฒนาการและปัญหาของลูกคุณหมอ. เพราะลูกผมก็ถูกวินิฉัยว่าเป็นแอสเพอเกอเหมือนกัน ตอนนี้อยู่ประถมต้น. ปัญหาที่คิดว่ามี ณ ตอนนี้คือ ไม่ค่อยมีเพื่อน. และพยายามปลีกตัว. แต่ผลการเรียนดีเยี่ยม. กลัวทักษะสังคมที่ต่ำจะทำให้ต่อไปคะแนนออกมาแย่. และกลายเป็นตัวตลกของเพื่อน. เพราะเพื่อนไม่เข้าใจเขา และเขาก็ไม่เข้าใจเพื่อน. เท่าที่อ่านจากหลายเวป. เข้าใจว่านี้คือปัญหาหลักของโรคนี้. ทางแก้คือ เข้ากิจกรรมบำบัดเท่าที่เงินและเวลาจะอำนวย. ซึ่งใช้เยอะมาก. ของผมเพิ่งเริ่ม. หนทางยังยาวไกล. ขอเป็นกำลังใจและขอติดตามครับ Log in to Reply
khanomMarch 19, 2013 at 5:38 pmขนมเองก็เป็นคนที่มีปัญหาการเข้าสังคม.. สิ่งที่ต้องการมากคือเพื่อน แต่เพื่อนไม่เข้าใจว่า บางทีเราก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง การพูด หรือการกระทำบางอย่างมันรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่รู้ว่าหลังจากพูดหรือทำแล้วเพื่อนจะไม่ชอบ แค่ต้องการให้เพื่อนตักเตือน ว่า เฮ้ย นี่ไม่ถูกนะแล้วฉันจะปรับปรุงตัว..แต่ขออย่างเดียว อย่าทิ้งฉัน…. เคยถามกับหมอว่า หนูผิดอะไรคะ ทำไมมีแต่คนไม่ชอบหนู….. หมอไม่ตอบ แล้วขนมก็ได้แต่ยิ้ม ไม่พูดอะไร มันดราม่า 55+ Log in to Reply
Tanapan KantanigornMarch 14, 2013 at 4:37 pmผมมองว่าน้องไมล์ ไม่ได้ป่วยอะไรเลย ขอแสดงความเห็นของบุคคลที่3 ที่อ่านเรื่องราวนี้นะครับ เรื่องนี้ถ้าจะเปรียบ ก็เสมือนส่งเด็กบ้านนอกเข้าไปอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำในคฤหาสถ์หลังงามกลางกรุง จริงๆถ้าเค้าได้เล่นกับเพื่อนที่เป็นเด็กเลี้ยงควายกลางทุ่งนา โดดลงน้ำตูมๆ ก็ไม่เห็นจมน้ำตายเลย ได้หัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก สนกสนานตามประสาเด็กบ้านนอก แต่เมื่อเค้าต้องจากบ้านที่อบอุ่นเข้าไปอยู่กับเด็กที่เกิดและโตมาคนละสิ่งแวดล้อม มันก็เลยเกิดความแตกต่าง…ก็เท่านั้น หามกมองในมุมของผม ผมเรียนโรงเรียนบ้านๆ ไม่เคยสอบได้ที่1 เลย แต่ก็มานั่งทำงานอยู่กับ American Board และเด็กเรียนโรงเรียนระดับชั้นนำของประเทศได้ ผมไม่รู้สึกว่าด้อยอะไรเลย เพียงแต่เราไม่มีอะไรจะไปคุยอวดเค้าเท่านั้น หัวหน้างานก็ยังจบสถาบันที่ด้อยกว่าซะอีก ขอย้ำอีกเรื่องหนึ่งคือ นายกรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งสูงสุด ก็ไม่เห็นมีใครจบโรงเรียนดังๆแบบนี้ ? แม้แต่นายกคนปัจจุบัน ! ฉะนั้นความสุขอยู่ที่ความพอใจ ในระดับที่ควรจะเป็นของเรามากกว่าครับ พ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกเรียนในที่ดีที่สุด ลูกก็เห็นคล้อยตามพ่อแม่ เลยเกิดความทุกข์อย่างที่เห็น น้องไมล์ไม่ได้ป่วย ไม่ได้ผิดปกติใดๆเกินเด็กคนอื่น เค้ามีพฤติกรรมที่ตั้งรับกับปัญหาเท่านั้น เมื่อพาไปพบจิตแพทย์ ก็ต้องได้ Diagnosis และได้ยามากินตามระเบียบ เหมือนกับคนไข้ Med มาหาด้วยเรื่องปวดท้อง หาอะไรไม่เจอก็บอกว่าเป็น IBS ได้ยามากมายก่ายกอง… ครับ Log in to Reply
adminMarch 14, 2013 at 6:44 pmจริงๆผมก็เชื่อว่าลูกไม่มีปัญหามานานมาก มันก้ำกึ่งมากๆครับ ต้องอยู่ด้วยจะทราบครับผม มันวินิจฉัยยาก อาการบางส่วนเขาคล้าย บางส่วนไม่ใช่ … Log in to Reply
30 Comments
ขอบคุณนะคะที่แชร์เรื่องราวของน้องไมล์ ได้เริ่มอ่านปั๊ปถึงกับหยุดอ่านไม่ได้เลย ลูกชายก็มีสมาธิสั้นค่ะ เริ่มพบหมอและทานยารักษามาตั้งแต่ 5 ขวบจนปัจจุบัน 9 ขวบแล้วค่ะ เรื่องแบบนี้ถ้าไม่ใช่พ่อแม่เด็กสมาธิสั้นก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะ เพราะคนส่วนใหญ่ก็ยึดเอาความเห็นตัวเองเป็นบรรทัดฐาน อย่างที่เขาคิดว่า คนทั่วไปย่อมรู้และเข้าใจรูปแบบการเข้าสังคมดี ซึ่งหากมีใครไม่ปฏิบัติตาม เขาก็จะถือว่า “จงใจฝ่าฝืน” ทันที และกลายเป็นหมาหัวเน่าไปซะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมเขาไม่คิดบ้างว่า เพื่อนบางคนอาจไม่รู้ไม่เข้าใจจริงๆก็ได้นะ แทนที่จะมัวแต่กล่าวหาว่า “รู้แต่จงใจฝ่าฝืน ต้องแบน” อะไรแบบนี้ ทำไมไม่บอกกล่าวแนะนำก่อน ทำไมต้องใจแคบกันนัก ทีเวลาลูกเราโดนแกล้งเรายังบอกลูกให้อภัยเลยเพราะเพื่อนๆลูกก็ยังเด็กแค่ 9 ขวบอาจทำไปโดยไม่คิดก็ได้ ลูกเรารักเพื่อนค่ะ ออกจะปกป้องเพื่อนด้วยซ้ำ คงเพราะเขาอยากมีเพื่อนเหมือนน้องไมล์ แม่เองก็อยากให้ลูกเป็นคนคิดดีทำดี แม้จะต้องเสียเปรียบบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่า ความดีจะคุ้มครองชีวิตเขาให้เป็นสุข แต่แม่เองก็อดใจหายไม่ได้เวลาเห็นเด็กๆอายุยังน้อยๆแต่กลับสนุกกับการหาเหยื่อไว้คอยทำร้าย คอยใส่ร้าย เพื่อความบังเทิงใจสะใจ คือ ใจร้ายอะ ยังคิดว่าเราใช้ขีวิตมาจนจะวัยกลางคนแล้วใจเรายังใสซื่อกว่าเด็กพวกนี้เลย มันเป็นไปได้ยังไง!!! เกิดอะไรขึ้นกับสังคม ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ที่สอนกันในวิชาจริยธรรมนี่ท่องไว้สอบเท่านั้นหรือ ? ในเมื่อในตำราเรียนก็สอนแล้วเด็กก็อปปี้แบบของความแล้งน้ำใจมาจากไหน ? เด็กเลียนแบบวิธีเอาตัวรอดทางสังคมจากใคร ? พ่อแม่ พี่เลี้ยง หรือว่าครู ? สมัยก่อนถ้าเราแค่หยิบยื่นน้ำใจให้กันเราก็กลายเป็นเพื่อนกันแล้ว แต่ปัจจุบันถ้าเด็กคนไหนเอาของมาแจกเพื่อนๆ แล้วสามารถล่าหาใครซักคนมาเป็นเหยื่อให้ตนเองและเพื่อนรุมแกล้งเอาสนุกได้ เด็กคนนั้นจะได้รับการยอมรับนับถือ เพื่อนๆจะพร้อมใจกันช่วยโกหกครูเพื่อปกป้องเด็กคนนั้น
ต้องถามว่า…ต้นแบบคือใคร ? เห็นพ่อแม่ก็คอยซื้อขนมมาฝากครูจัง เรื่องศีลธรรมนี่ตำราเรียนไม่ช่วยอะไรเลยค่ะ อยู่ที่ต้นแบบล้วนๆ เด็กสมาธิสั้นอย่างลูกเราข้อดีคือจิตใจที่บริสุทธิ์ค่ะ เพราะเขาไม่เข้าใจการเข้าสังคมด้วยการติดสินบนค่ะ มันซับซ้อนสำหรับเขา ใครได้เขาเป็นเพื่อนนี่โชคดีมากนะคะ เพราะเขาไม่รู้วิธีหักหลังใคร ที่จริงเขาเกิดมาพร้อมความใสซื่อค่ะ ที่เหลือเราแค่สอนให้แยกถูกผิดดีชั่วให้ออก เขาก็จะเป็นคนดี เป็นลูกที่ดี เป็นสามีที่ดี และเป็นพ่อที่ดีได้ในแบบที่ไม่มีเฉไฉแอบไปทำผิดทำชั่วที่ไหนเลยจริงๆ ยังไงก็ยังดีกว่าคนสติปัญญาดีพร้อม ที่ฉลาดล้ำจนข้ามเส้นของความถูกต้องตลอด ไม่แยกแยะถูกผิดนะคะ
เราสอนให้ลูกอภัย ปล่อยวางได้ ใจลูกเราก็เป็นสุขค่ะ ลูกชายชอบดนตรีเหมือนกันค่ะ ดนตรีเป็นทางออกทางอารมณ์ที่ดีมาก เป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวเขามาจริงๆ เพื่อนเด็ก ช บางคนก็มีอิจฉาเขานะคะ เพราะเพื่อน ญ ชอบฟังเขาเล่นเพลง เราคงไปดับความอิจฉาใครไม่ได้ เด็กนั่นถึงขั้นป่าวประกาศว่า ลูกเรากินยาบ้า บอกเพื่อนๆว่าโตขึ้นลูกเราจะฆ่าคน ลูกเรางงค่ะ…เพราะขนาดเจอหนอนตรงทางเดิน…เขายังสงสารกลัวคนเดินเหยียบเลย ผิดกับเด็กนั่นที่เดินมาเหยียบหนอนตายหน้าตาเฉยแถมบอกว่า “ก็แค่สัตว์ ทำไมต้องโกรธด้วย” ตอนลูกเรายังเล็ก 6-7 ขวบ เขาก็เหยียบหนอนตายนะคะ เราก็แสดงความเสียใจมากที่เขาทำอย่างนั้น เราสมมติให้เขาเป็นหนอนซักตัวแล้วจะรู้สึกอย่างไร ขัดเกลาไปเรื่อยๆจนปัจจุบันเขากลายเป็นคนอ่อนโยนมีเมตตาต่อสัตว์มาก ต่างกับเด็กนั่น 9 ขวบแล้วยังฆ่าสัตว์เล่นอยู่เลย แล้วยังกล้าไปบอกใครๆว่า ลูกเราโตขึ้นจะฆ่าคน ที่จริงดูก็รู้ว่า พ่อแม่เด็กสอนให้ลูกมองเพื่อนอย่างนั้น เพราะเด็ก 9 ขวบคงไม่มีใครไปรู้เรื่องยาสมาธิสั้นหรอกนอกจากผู้ใหญ่บอก ถูกไหมคะ แต่ลูกเราทานยาโด๊สต่ำกว่า นน. ตัวมากเลยนะคะ เป็นความร่วมมือระหว่างคุณป้าหมอ กะ พ่อแม่ ว่า เราจะไม่ใช้ยากดอย่างเดียว แต่ใช้การบำบัดพฤติกรรม แนะแนวทางให้เด็กค่ะ สอนให้เด็กเข้าใจและควบคุมอารมณ์ สติ แยกแยะถูกผิด และยับยั้งตัวเองให้ได้ ที่จริงเด็กทุกคนควรต้องได้รับการฝึกพวกนี้นะคะไม่ใช่แค่เด็กสมาธิสั้น มันสำคัญมาก แต่กลายเป็นเมื่อเด็กสมาธิสั้นและพ่อแม่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับหมอมากกว่า ก็ได้โอกาสฝึกมากกว่า เด็กปกติที่ห่างหมอกลับไม่ได้รับการฝึกด้านอารมณ์แบบนี้เท่าไหร่ หลายๆคนเลยแปลความไม่พอใจ อิจฉา ไปเป็นการแสดงความโกรธเกรี้ยว ทำร้ายผู้อื่นให้เสียหายเพราะไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้ หนักยิ่งกว่าเด็กสมาธิสั้นที่บำบัดแล้วซะอีกค่ะ ยิ่งโตก็จะยิ่งเห็นพฤติกรรมต่างๆเด่นชัดขึ้น สำหรับลูกเรา…คุณหมอบอกว่า อีกหน่อยก็เลิกทานยาได้ เพราะเขาถูกฝึกให้คิดเป็นมีสติยับยั้ง เขาทำได้ดีมาก เราเป็นแม่ก็เบาใจ ก็ได้แต่แนะลูกว่า “เพื่อนคนไหนคิดร้ายเรา…เราก็แค่ห่างๆเขานะ ชีวิตเราจะได้สุขสงบ อย่าไปโกรธ ไปเถียง ไปต่อกร เพราะมันไม่เกิดประโยชน์ ลูกเองก็มีสิทธิ์เลือกเพื่อนเหมือนกัน” เราต้องคอยให้กำลังใจ และเพิ่มความเชื่อมั่นให้ลูกนะคะ เพราะสภาพแวดล้อมที่ รร ทำให้เขาสูญเสียความเชื่อมั่นหนักพออยู่แล้ว ครูหลายๆคนก็ยังเอาความคิดตัวเองเป็นบรรทัดฐานแบบเด็กๆ…มีแค่ผิดกับถูก ทั้งที่ครูมีหน้าที่สอนไม่ใช่ตัดสิน เด็กๆที่เลียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่ เช่น การติดสินบน เล่นพรรคเล่นพวก อิจฉาริษยาและต้องการเอาชนะด้วยวิธีการสกปรก อย่าง ขุดปมด้อยคนอื่นมาประจาน รวมถึงการโกหกเพื่อให้ร้ายผู้อื่น หรือ เพื่อเอาตัวรอด คือ…ถ้าสมมติว่า ลูกเราไม่ชอบเพื่อนคนไหนเพราะรู้สึกอิจฉาที่เพื่อนเก่งกว่า เราก็คงบอกให้ลูกรู้ตัวรู้ทันอารมณ์อิจฉาของตัวเอง แล้วสนับสนุนให้ลูกแก้ไขเรื่องนี้ด้วยการเอาเวลาไปฝึกฝนตัวเองให้เก่งขึ้นนะ ให้เก่งจนตัวเองพอใจไปเลย ไม่ใช่ไปช่วยลูกหาข้อมูลยาสมาธิสั้นแล้วบอกให้ลูกไปประจานเพื่อนที่ รร คือ พ่อแม่บางคนสอนลูกไม่แมนเลยจริงๆ ? เราว่าเด็กแบบนี้น่าห่วงกว่าอีกค่ะ โตขึ้นใครได้ร่วมงานคงโดนไม่ต่างกัน สุดท้าย คือ ใครทำอะไร…ก็ย่อมได้อย่างนั้นค่ะ
น้องไมล์เก่งมากนะคะ น้องเอาชนะตัวเองได้ คุณพ่อคุณแม่ก็เก่งมากที่ผ่านทุกความรู้สึกมาได้อย่างแกร่ง ผลักดันเอาความสามารถของน้องมาเพิ่มความมั่นใจให้น้องมากๆนะคะ เด็กสมาธิสั้นต้องเจอกับเรื่องแย่ที่บั่นทอนจิตใจเขามากกว่าที่เขาเล่าให้เราฟังเยอะเลย เพราะเขามักลืมเล่าหลายๆอย่าง แต่ที่แย่ คือ เขากลับไม่ลืมความรู้สึกด้อยค่าไม่เป็นที่ต้องการเหล่านั้นไปด้วย ? เราบอกลูกเสมอว่า “ลูกมีค่ากับครอบครัวเราแค่ไหน ตราบใดที่ลูกมีจิตใจที่ดีติดตัว เพื่อนที่รายล้อมลูกก็จะเป็นมิตรที่ดี ไม่ต้องพยายามวิ่งหาใครมาเป็นเพื่อนหรอก เพื่อนที่ดีจะเห็นความดีในตัวลูกแล้วจะมาอยู่ข้างๆเราเอง โดยไม่ต้องวิ่งตาม” สู้ๆค่ะ ขอเป็นอีกกำลังใจให้นะคะ
ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องราวของน้องไมล์ที่มีประโยชน์มากๆ ….ตอนนี้กำลังให้ลูกเรียนพิเศษเพื่อสอบเข้า ม.1 EP รร.ชื่อดังแห่งหนึ่ง ความกังวลใจคือ ลูกสมาธิค่อนข้างสั้นเช่นเดียวกัน บทเรียนจากน้องไมล์จะช่วยให้พยายามเข้าใจลูกมากขึ้นค่ะ…ขอบคุณจริงๆ
ขอบคุณค่ะ ดีใจที่ทำให้ได้อ่านบทความนี้ ตอนนี้กำลังหาโรงเรียนให้ลูกกำลังจะขึ้น ม.1 ปีการศึกษา 59 พาลูกไปเรียนพิเศษแถวพญาไท เหมือนกันค่ะ เห็นเด็ก ๆ เขาติวกันแล้ว ส่งข้าว ส่งน้ำ เฮ้อ…สังคมไทย มาก เยอะ เราก็ส่งด้วย มันคงคนละสมัยกะเรา ส่วนตัวไม่รู้จักโรคนี้แต่อยากให้มี ชมรม หรือสมาคม สำหรับเด็กกลุ่มนี้ เพื่อช่วยดูแลกัน ปัจจุบันมีหรือเปล่าไม่รู้ค่ะ แบบสมาคม ของวิชาชีพอื่น ๆ น่ะค่ะ
ขอบคุณเรื่องของไมล์ค่ะ ทำให้ต้องมาทบทวนพฤติกรรมหลายๆอย่างของลูกว่าคล้ายไมล์ มา เช่นชอบแกล้ง ไม่ส่งการบ้าน บางทีครูบอกว่าเห็นทำแล้วนะแต่ไม่ส่ง หรือทำแบบไม่สนใจทำขอให้แค่เสร็จๆเท่านั้น เล่นแรงถึงแรงมาก จนถูกฟ้องว่าทำร้ายร่างกายเพื่อน ทั้งๆที่ครูบอกว่าน้องเป็นเด็กจิตใจดีนะ แต่เล่นแรงและขี้โมโห เพื่อนในห้องไม่ค่อยเล่น จะมีเพื่อนต่างชั้นเรียน ที่คุณแม่รู้สึกแย่ที่สุดคือลูกคิดว่าคนอื่นโง่ไม่เก่ง อันนี้เข้าข่ายผิดปกติหรือไม่คะ ลองโทรไปนัดพบจิตแพทย์เด็กที่รามา รอคิวเกือบปีเลย มีที่ไหนแนะนำบ้างรึป่าวคะ
เพิ่งได้มีโอกาส มาอ่านบทความของน้องไมค์ แอบชื่นชม ทางบ้านทั้งคุณพ่อ และ คุณแม่ของน้องมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งมองสะท้อน ถึงสังคม และ ทางเราเอง ลูกอายุ 4 ขวบ แอบหวั่น ๆ อาการสมาธิสั้นอยู่เหมือนกันค่ะ… พยายามถามคุณหมอ และ คุณครู อยู่เหมือนกัน ถ้าเป็นทางเราไม่อายเลยค่ะ ยินดีที่จะรักษา และ คอยให้ความรัก ความอบอุ่น ลูกเสมอมา …
ขอยคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ เด็กๆเราเป็นเด็กเก่งเด็กดีในรร. รัฐบาลเล็กๆ (ประถม – ย้ายมาเรียนป. 3 เพราะพ่อแม่เลิกกัน) โดยเพื่อนแกล้งเพื่อนอิจฉาตลอดเลยค่ะ แต่เราก็ผ่านมาได้ ดีใจมากที่จบจากรร.นั้นไป พอขึ้นมัธยม รร.ใหญ่ขึ้นมาก เราก็มีเพื่อนเป็นเด็กเรียนเหมือนกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เวลาทำงานกลุ่มมักจะต้องกระโดดไปทำหลายกลุ่ม เพราะบางทีคนเกิน เนื่องจากมีภูมิมาก่อนว่าไม่ต้องยึดติดกับเพื่อนกลุ่มเดิมๆ เลยสามารถข้ามกลุ่มไปทำงานกับเพื่อนใหม่ได้เสมอ แต่จนถึงทุกวันเราก็ไม่ค่อยมีเพื่อนค่ะ เพราะมีโลกส่วนตัวสูง กลัวว่าลูกชายจะเป็นเหมือนกันเพราะเค้าก็เป็นแบบนี้
นับว่าเป็นการบอกเล่าที่ดีมากเลยค่ะ จากที่ดิฉัน สับสนอยู่หลายสัปดาห์ว่าจะแนะนำลูกอย่างไรดี ในการเลือกเรียนที่ไหน และจะเรียนอะไร
หลังจากได้อ่านประสบการณ์ของคุณหมอแล้ว ตอนนี้ดิฉันได้คำตอบแล้วค่ะ
ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยค่ะ. ที่เล่าประสบการ์ของท่านให้ฟัง. ทำให้ดิฉันได้ความรู้. และได้รู้อะไรหลายๆอย่างในการเลี้ยงดูลูก.
อย่างไรก้อขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ
แล้วไม่ทราบตอนนี้น้องไมล์. เป็นอย่างไรบ้างค่ะ
เป็นบทความที่ดีมากเลยค่ะ น้องแคปซูลก็เจอเหตุการณ์เดียวกันเลยค่ะ เพื่่่อนบางคนเหมือนกันค่ะ แบบนี้เลยค่ะ และครูเลือกที่จะเชื่อฟังเด็กที่พูดเก่งๆ เราเลือกสู้ัก่อน โดยส่งครูประกบไปเพื่อเป็นหูเป็นตาแทนเรา ความตึงเครียดต่างๆ ที่มีต่อเด็กจึงหายไป เด็กปกติก็อาจถูกบีบให้คลั่งได้ ขนาดผู้ใหญ่ยังแทบไม่ไหวเลยนะคะ อ่านๆ เรื่องของคุณหมู น้ำตาไหลเลยค่ะ ช่างเหมือนกัน เด็กสมัยนี้ร้ายค่ะ บ้านเราก็เหมือนคุณหมอ คือไม่ฟังความข้างเดียว ไม่เชื่อลูกตัวเองอย่างเดียว และไม่เชื่อเด็กคนอื่นอย่างเดียว และครูก็ยังเชื่อไม่ได้ ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเอง หรือว่าส่งคนที่เป็นคนกลางไปพิสูจน์ ตอนนี้กำลังคิดเหมือนคุณหมอว่าจะตัดสินใจหนีจากสังคมแย่ๆ ดีหรือไม่ เพราะเราเปลี่่ยนคนอื่นไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนตัวเราเองได้ สู้ๆ นะคะ (บอกกับตัวเองด้วย)
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ เพื่อเตือนสติคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมุ่งหวังให้ลูกสอบเข้าเรียนโรงเรียนดัง เพราะสังคมทุกวันนี้แข่งขันกันแต่เรื่อง IQ ไม่สนใจเรื่อง EQ ซึ่งควรจะพัฒนาไปพร้อมๆกัน ลูกชายดิฉันก็มีลักษณะเข้าข่ายเด็กสมาธิสั้น หมักหมมงาน ไม่ส่งการบ้าน ชอบแกล้งเพื่อน แหย่เพื่อน ไม่อยู่นิ่ง ไม่ฟังครูสอน ฟังได้ไม่นาน อ่านหนังสือได้ไม่นาน หลับขณะเรียน มีความสุขระรื่นตลอดเวลา จนเพื่อนไม่อยากให้นั่งใกล้ด้วย สุดท้ายครูต้องนั่งคนเดียวหลังห้อง แต่คุณแม่ก็พยายามจะเข้าใจเขาค่ะ ไม่ให้เรียนกวดวิชามากมายเหมือนเพื่อนๆ เรียนคณิตอย่างเดียวเพราะเขาชอบ และให้เขาเรียนวาดรูปมาปีกว่าแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาชอบเหมือนกันเพื่อฝึกสมาธิให้นิ่งก่อน เขาเริ่มดีขึ้นค่ะ อ่านหนังสือได้นานขึ้น ปีหน้าเขาจะสอบเข้า ม.1 ก็ต้องลุ้นกันต่อไป ท้ายที่สุดก็คงต้องดูความพร้อมและความสุขของเด็ก ไม่ใช่ความต้องการของพ่อแม่เช่นกัน
ขอคำปรึกษาด้วยคนจาก รุ่น ” ปลื้มปิติ”
ขอเบอรโทรนะคะ อยากปรึกษาจริงๆคะ
ส่งมาทางเมลฺนะคะ
donwai2012@hotmail.com
มีลูกชายที่มีลักษณะแบบนี้เหมือนกัน แต่สังเกตุเห็นความผิดปกติตั้งแต่ 2 ขวบ และเริ่มไปพบหมอจิตเวชเด็ก 10 ปี ตอนนี้จบม.6 เตรียมเข้ามหาวิทยาลัย ขอแสดงความคิดเห็น และชื่นชมความรักในครอบครัวที่มีให้กัน และอยากแชร์ประสพการณ์ว่าสิ่งสำคัญสำหรับเด็กพิเศษคือสังเกตุความผิดปกติให้เร็ว พบหมอ ขอความเข้าใจและความรักจากคนในครอบครัวสำคัญมาก และทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีค่ะ
เป็นบทเรียนที่ดีมากครับ
น้องไมล์เป็นเด็กอัจฉริยะหรือเปล่าคะ
ลองอ่านบทความนี้ดูนะคะ
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=630844
เข้าใจเลยครับว่าเด็กที่มีปัญหากับการปรับตัวเป็นอย่างไร แม้ไม่ได้เป็นทั้งสองโรค แต่เมื่อสมันยังเด็ก ก็ไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทเหมือนกัน แต่ยังดีหน่อยที่เพื่อนๆให้เข้ากลุ่ม เวลาเราอยู่ในห้องที่เด็กเก่งมากๆ เราต้องพยายามทุกวิถีทาง ความกดดันทั้งเรื่องเกรดเรื่องคะแนน บางคนก็ต้องมีความเห็นแก่ตัวอย่างมาก
เพื่อนบางคนทำคะแนนได้น้อย ถึงกับร้องไห้ เพราะว่ากลัวพ่อแม่ว่า
แต่ก็ขอชื่นชมทั้งคุณพ่อ คุณแม่และน้องไมล์ ที่ต่อสู้จนหลุดออกมาจากที่แบบนั้นได้ ไม่รู้สึกอาฆาต แถมยังแผ่เมตตาให้ด้วย ผมคิดว่าคุณทั้งสองสอนลูกได้ดีมากทีเดียว แม้ตอนแรก อาจจะยังไม่เข้าใจลูก
เป็นกำลังใจให้ครับ
ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ ลูกมีสมาธิสั้น และหมอบอกว่าน่าจะเป็นโรคนี้ด้วย เพื่อนน้อย แต่ก็พอมีเพื่อนอยู่บ้าง เขาเป็นคนที่ฉลาดมาก แต่ผิดกับน้องไมล์ตรงที่เขาไม่ค่อยชอบเรียน และไม่มีความสนใจอะไรเป็นพิเศษเลย เขาจะเปลี่ยนความสนใจไปเรื่อยๆ ที่น่ากลัวคือตอนนี้เขาเริ่มติดเกมคอมพิวเตอร์ ใช้เวลามากมายอยู่กับคอมพิวเตอร์ แม้ว่าเราจะ พยายามหากิจกรรมอะไรให้เขาทำเขาก็ไม่สามารถออกจากเกม และคอมพิวเตอร์ได้ หหมอเองก็ทำท่าจะถอดใจ ดิฉันเป็นคนเดียวในบ้านที่เชื่อเรื่องเวรกรรม หันเข้าหาทางธรรม เคยสอนให้ลูกแผ่เมตตา สวดมนต์ เมื่อเล็กๆ มาบัดนี้เขาก็ไม่ทำแล้ว บางครั้งก็ท้อมาก ก็ได้อาศัยธรรมะเป็นที่พึ่งที่อาศัย เฝ้ารอว่าวิบากดีวันไหนจะส่งผล มิฉะนั้นคงไม่มีที่พึ่งที่ไหนอีกแล้ว
ชีวิตหนูเป็นประมาณนี้เลยค่่ะ พวกเข้าสังคมยาก เพื่อนไม่คบ ครอบครัวก็ไม่เคยใส่ใจหนู ลูกชังหนะค่่ะ ตอนนี้นี้มอ6จะเอ็นแล้วก็ยังเป็นอยู่ค่่ะ แต่ปลงแล้วค่่ะ คิดในแง่ดีอีกเทอมเราก็จบแล้ว ดีใจกับน้องด้วยค่่ะที่มีครอบครัวที่ดีมาก ถึงตอนหนูมีครอบครัวเมื่อไหร่หนูจะเอาใจใส่ลูกให้มากๆ จะได้ไม่ต้องมาเป็นแบบหนู^^
ที่อ่านดู และ ดูประวัติของผู้เขียน น่าจะเกิดจากความคาดหวังในตัวลูก จึงอยากแนะนำให้ศึกษา แนวทางเลี้ยงลูก floortime แต่ต้องมีเวลาให้ลูกจริงๆ ถ้าอยากช่วยลูก
ต้องรอดูผลครับ แต่ส่วนตัวผมว่าน้องน่าจะเหมาะกับ รร เล็กๆ class size ไม่เกิน 20 คนต่อห้อง ที่ครูเอาใจใส่ใกล้ชิดมากกว่าจะย้ายไป รร ขนาดใหญ่อีกแห่ง เพราะเมื่ออยู่ gifted ที่หนึ่งแล้วย้ายไป GATE (ก็คือ Gifted นั่นแหละ) ไม่น่าจะช่วยอะไรเลย เพราะเป็นเด็กกลุ่ม profile แบบเดียวกัน สวนกุหลาบ ก็ใหญ่เกินกว่าจะดูแลเด็กพิเศษไหว
ขณะที่อีกสมมติฐานของคุณพ่อ ที่คิดว่าจะเป็นจากเด็กผู้หญิง จึงย้ายเข้าชายล้วนจะแก้ได้นั้น คงต้องรอดูต่อไป แต่ผมคิดว่าเด็กก็คือเด็ก จะมีความคิดเหมือนกัน แต่เด็ก ญ เค้าแสดงออกมากกว่า จุกจิกมากกว่าเท่านั้น
ขอบคุณครับ สำหรับบทความดีๆ
เป็นอีกหนึ่งกำลังใจครับ
และยินดีมากๆ ครับที่ลูกคุณหมอได้อยู่ร่วมรุ่น “ปราสาทเขาพระวิหาร”
กับลูกชายผมครับ
มีภาดต่อรึยังครับคุณหมอปัจจุบันเข้าเรียนสวนกุหลาบแล้วมีพัฒนาการเป็นอย่างไรกับสังคมใหม่ซึ่งเป็นเด็กชายล้วน รึว่าต้องรออีกสักพักก่อน
ยินดีต้อนรับน้องสวน ไมล์
จากพี่
ช่อน OSK 107
ขอคุณสาระประโยชน์ดีนี้มากเลยครับ
ผมก็เป็นทั้งพ่อและลูกเหมือนกัน
ในฐานะลูก เราต่างก็ผ่านวัยเรียนกันมาแล้ว
แต่ในฐานะพ่อ ทำให้ผมได้ข้อคิดที่ดี ในการทำหน้าที่ของพ่อที่ดีต่อไป
อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ จบลงแบบไหนไม่สำคัญ แต่ผมได้เร็วความรัก ความสามัคคี ความแน่นแฟ้นของครอบครัว ตื้นตันใจจริงๆครับ
ผมขอวยพรให้คุณและครอบครัว จงประสบแต่สิ่งที่ดีดี บุญรักษาครับ
ขอเอาใจช่วยครับ ผมคนหนึ่งที่รักลูกมากๆ แต่ผมคงจะเดินคนละทางกับคุณ คือผมคงไม่มุ่งหวังให้ลูกต้องเรียนเก่งและต้องเข้าโรงเรียนดีๆ ดังๆ ผมอยากให้ลูกมีความสุขตามสภาพ และผมจะสอนลูกอยู่ที่บ้าน (โฮมสคลู ลูกผมเป็นชายทั้งคู่ 4 ขวบครึ่ง กะ 2ขวบ) และคนโตอาจมีสมาธิสั้นเล็กๆ (?) เหมือนไมล์ (ในการคาดเดาของผม และคิดว่าจะพาไปให้จิตรแพทย์เซ็คเร็วๆ นี้)
ขอขอบคุณคุณหมอที่เอาเรื่องของไมล์มาเป็นกรณีศึกษาให้ผมได้อ่านครับ
โรคนี้วินิจฉัยยากจริงค่ะ โดยเฉพาะถ้าเด็กมีอาการไม่มาก เด็กที่เป็นแต่ไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่แรกมักจะมีปัญหาแบบน้องไมล์
มีแพทย์เยอะแยะที่missไปเพราะคิดว่าเป็นเพียงปัญหาพฤติกรรมการปรับตัวของเด็ก แต่โดยทั่วไปก่อนที่จะวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ได้ต้องสังเกตุพฤติกรรมอย่างน้อยหลายเดือนหรือเป็นปีค่ะ
ไม่ทราบว่าตอนนี้น้องเข้าgiftedสวน แล้วเป็นอย่างไรบ้าง(โดยส่วนตัวไม่ค่อยเห็นด้วยนะคะที่ให้น้องเข้าเรียนแบบgifted แต่เห็นด้วยที่ให้น้องเข้ารร.ชายล้วน)
ผมเองก็มีลูกชายเป็นสมาธิสั้นครับ ขึ้น ป.6 และจะเข้า ม.1 ในปีหน้า ปัจจุบันกิน concerta ไปเรียนวันละ 1 เม็ด กับเพื่อนไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่(อาจเป็นเพราะยาที่ทำให้เขาสงบ) การเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่มีปัญหากับการส่งการบ้านที่ชอบหมกและไม่ค่อยส่งงานครูทั้งๆ ที่บางทีก็ทำเสร็จแต่ไม่ส่ง ผมเจอกับเพื่อนที่มีลูกเป็นสมาธิสั้นก็เล่าให้ฟังว่าลูกเขาก็เป็นเหมือนกัน ดองงานวิชาวิทยาศาสตร์จนพ่อกับแม่ต้องมาช่วยทำไม่งั้นครูไม่ให้สอบปลายภาคเอา อีกปัญหาหนึ่งที่ผมพบคือสภาพของการทำข้อสอบที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย คืออยู่ที่บ้านฝึกทำข้อสอบจะเก่งมาก สามารถทำข้อสอบแข่งขันต่างๆได้ในเกณฑ์ที่ดี แต่พอไปสอบจริงกลับไม่สามารถทำได้อย่างที่ฝึก สำหรับเด็กสมาธิสั้นผมเป็นห่วงในเรื่องของเพื่อนนี่แหละครับ ก็เลยคิดกับภรรยายว่าจะไม่ให้เขาไปเรียนที่ กรุงเทพฯ หรือ โรงเรียนประจำ จะให้เรียนอยู่ในโรงเรียนประจำจังหวัดนี่แหละ เพราะเด็กช่วง ม.ต้น กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่สำคัญเขาเป็นเด็กสมาธิสั้นซึ่งส่วนใหญ่จะมีปัญหาในเรื่องของพฤติกรรมที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษ สำหรับเรื่องส่งลูกไปเรียนโรงเรียนมีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ ในระดับ ม.ต้น ผมไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะเรียน Gifted หรือ Gate Program ซึ่งมีค่าเทอมที่แพงมาก ก็ต้องไปเสียเงินให้โรงเรียนกวดวิชาเหมือนกัน ผมมีเพื่อนที่ทำงาน ลูกชายเขาก็อยู่ในกลุ่มของเด็กแข่งได้รับรางวัลในระดับประถมมากมายพอสมควร พอจบป.6 ก็ไปเข้า Gate Program นั่งรถตู้ไปเช้าเย็นกลับที่ นครปฐม แต่เด็กก็ยังต้องกวดวิชาทุกเสาร์อาทิตย์ แน่นอนว่าไปเรียนที่นั่นคนเก่งเยอะมาก เด็กก็ไม่สามารถที่จะเป็นตัวแทนโรงเรียน สอบ สอวน. กว่าจะผ่านได้ก็ต้องรอจนถึง ม.3 และก็ได้แค่รอบที่ 1 ส่วนเพื่อนๆ ของเขาที่เรียนได้พอๆ กัน พ่อแม่ให้เรียนแค่โรงเรียนประจำจังหวัด กลับประสบความสำเร็จในการเรียนที่ดีกว่าได้เป็นตัวแทนโรงเรียนไปสอบแข่งขันในรายการต่างๆ ตลอด (เพราะการสอบบางอย่างต้องสอบในนามโรงเรียนเท่านั้นเช่น TUGMOS,MWIT SQUARE,เพชรยอดมงกุฏ) การสอบ สอวน. ก็ได้เป็นตัวแทนศูนย์ไปแข่งโอลิมปิคระดับชาติ(เพราะแข่งกันเฉพาะเด็กในโซนภูมิภาค) เด็กต่างจังหวัดบางคนเข้าค่าย สอวน.ตั้งแต่ ม.1- ม.3 ปีละวิชาเลยก็มี ที่สำคัญค่าเทอมก็ถูกกว่า ท้ายที่สุดเด็กทั้งหมดสอบเข้าได้ที่มหิดลวิทยานุสรณ์เหมือนกันทั้งหมด สรุปผมให้ลูกเรียนที่ต่างจังหวัดนี่แหละครับ ไม่ต้องเจอปัญหารถติด ไม่ต้องจ่ายแพง ไม่ต้องซื้อคอนโด มีค่าย สอวน.ที่สอบไม่ยากมากให้ลูกฝึกฝน โรงเรียนกวดวิชาก็มีให้เรียนเหมือนกัน…
ผมอ่านเรื่องลูกของคุณหมอแล้ว คิดว่า. ระบบโรงเรียนของเราหล่อหลอมมาเพื่อแข่งขัน. ไม่ได้ส่งเสริมจริยธรรมของเด็กเลย. ทำให้เกิดเด็กเก่งจากการกวดวิชา. โดยที่ไม่มีวุฒิภาวะที่เหมาะสมเลย. เช่นใช้คำหยาบ. อิจฉาลูกคุณหมอขนากทำได้ทุกอย่าง. ขณะเดียวกันผมก็อยากติดตามพัฒนาการและปัญหาของลูกคุณหมอ. เพราะลูกผมก็ถูกวินิฉัยว่าเป็นแอสเพอเกอเหมือนกัน ตอนนี้อยู่ประถมต้น. ปัญหาที่คิดว่ามี ณ ตอนนี้คือ ไม่ค่อยมีเพื่อน. และพยายามปลีกตัว. แต่ผลการเรียนดีเยี่ยม. กลัวทักษะสังคมที่ต่ำจะทำให้ต่อไปคะแนนออกมาแย่. และกลายเป็นตัวตลกของเพื่อน. เพราะเพื่อนไม่เข้าใจเขา และเขาก็ไม่เข้าใจเพื่อน. เท่าที่อ่านจากหลายเวป. เข้าใจว่านี้คือปัญหาหลักของโรคนี้. ทางแก้คือ เข้ากิจกรรมบำบัดเท่าที่เงินและเวลาจะอำนวย. ซึ่งใช้เยอะมาก. ของผมเพิ่งเริ่ม. หนทางยังยาวไกล. ขอเป็นกำลังใจและขอติดตามครับ
ขนมเองก็เป็นคนที่มีปัญหาการเข้าสังคม..
สิ่งที่ต้องการมากคือเพื่อน แต่เพื่อนไม่เข้าใจว่า บางทีเราก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง การพูด หรือการกระทำบางอย่างมันรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่รู้ว่าหลังจากพูดหรือทำแล้วเพื่อนจะไม่ชอบ แค่ต้องการให้เพื่อนตักเตือน ว่า เฮ้ย นี่ไม่ถูกนะแล้วฉันจะปรับปรุงตัว..แต่ขออย่างเดียว อย่าทิ้งฉัน….
เคยถามกับหมอว่า หนูผิดอะไรคะ ทำไมมีแต่คนไม่ชอบหนู….. หมอไม่ตอบ แล้วขนมก็ได้แต่ยิ้ม ไม่พูดอะไร มันดราม่า 55+
ผมมองว่าน้องไมล์ ไม่ได้ป่วยอะไรเลย
ขอแสดงความเห็นของบุคคลที่3 ที่อ่านเรื่องราวนี้นะครับ
เรื่องนี้ถ้าจะเปรียบ ก็เสมือนส่งเด็กบ้านนอกเข้าไปอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำในคฤหาสถ์หลังงามกลางกรุง จริงๆถ้าเค้าได้เล่นกับเพื่อนที่เป็นเด็กเลี้ยงควายกลางทุ่งนา โดดลงน้ำตูมๆ ก็ไม่เห็นจมน้ำตายเลย ได้หัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก สนกสนานตามประสาเด็กบ้านนอก แต่เมื่อเค้าต้องจากบ้านที่อบอุ่นเข้าไปอยู่กับเด็กที่เกิดและโตมาคนละสิ่งแวดล้อม มันก็เลยเกิดความแตกต่าง…ก็เท่านั้น
หามกมองในมุมของผม ผมเรียนโรงเรียนบ้านๆ ไม่เคยสอบได้ที่1 เลย แต่ก็มานั่งทำงานอยู่กับ American Board และเด็กเรียนโรงเรียนระดับชั้นนำของประเทศได้ ผมไม่รู้สึกว่าด้อยอะไรเลย เพียงแต่เราไม่มีอะไรจะไปคุยอวดเค้าเท่านั้น หัวหน้างานก็ยังจบสถาบันที่ด้อยกว่าซะอีก ขอย้ำอีกเรื่องหนึ่งคือ นายกรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งสูงสุด ก็ไม่เห็นมีใครจบโรงเรียนดังๆแบบนี้ ? แม้แต่นายกคนปัจจุบัน ! ฉะนั้นความสุขอยู่ที่ความพอใจ ในระดับที่ควรจะเป็นของเรามากกว่าครับ พ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกเรียนในที่ดีที่สุด ลูกก็เห็นคล้อยตามพ่อแม่ เลยเกิดความทุกข์อย่างที่เห็น
น้องไมล์ไม่ได้ป่วย ไม่ได้ผิดปกติใดๆเกินเด็กคนอื่น เค้ามีพฤติกรรมที่ตั้งรับกับปัญหาเท่านั้น เมื่อพาไปพบจิตแพทย์ ก็ต้องได้ Diagnosis และได้ยามากินตามระเบียบ เหมือนกับคนไข้ Med มาหาด้วยเรื่องปวดท้อง หาอะไรไม่เจอก็บอกว่าเป็น IBS ได้ยามากมายก่ายกอง… ครับ
จริงๆผมก็เชื่อว่าลูกไม่มีปัญหามานานมาก มันก้ำกึ่งมากๆครับ ต้องอยู่ด้วยจะทราบครับผม มันวินิจฉัยยาก อาการบางส่วนเขาคล้าย บางส่วนไม่ใช่ …
there s hero lies in you ka