เอาละ .. เรามาดูเรื่องของความสุขบ้าง ความสุขนี้ต้องแยก ออกเป็น สุขทางโลก กับสุขทางธรรม ซึ่งต่างกันอย่างสิ้นเชิง ด้วยว่า สุขทางโลก คือการแสวงหา อยากมี อยากได้ อยากไม่มี อยากไม่ได้ ซึ่งเป็นการก่อกิเลส เรื่องความอยาก และไปพึ่งพิงสิ่งที่พึ่งไม่ได้ คือสิ่งต่างๆที่ไม่เที่ยง
แต่สุข ทางธรรมคือการละ ไม่ยึด ไม่แสวงหา .. คือความว่างเปล่า สุญญตา ซึ่งถ้าเป็นแบบเคร่ง ก็จะต้องทิ้งทางโลกโดยสิ้นเชิง
เราอยู่ในทางโลกมานาน ก็เลยพูดเรื่องสุขทางโลก มากหน่อย ในบางครั้ง เรามองว่าตัวเองทุกข์ .. จริงๆ ความทุกข์ คือตรงข้ามกับสุข มันต่างกันแค่กรอบความคิด ที่จะรับเอาสิ่งภายนอกเข้ามา เหมือนใจเรามีสองประตู ประตูรับความสุข กับประตูรับความทุกข์
ปิดประตูรับความทุกข์ ความทุกข์ก็เข้ามาทำอะไรเราไม่ได้ คนจะทุกข์ พระท่านว่า มี 2 อย่าง คือ จมอยู่กับอดีต และกังวลกับอนาคต คนจะสุข ท่านว่ามีอย่างเดียว คือ อยู่กับปัจจุบัน อดีต แก้ไขไม่ได้ อนาคต ก็ยังมาไม่ถึง ไม่ต้องไปกังวล เพราะเรายืนอยู่บนปัจจุบัน
ความเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกอย่างในโลกนี้เคลื่อนไปสู่
การสลายตัวทั้งสิ้นไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุขละได้ย่อมสงบ — หลวงปู่ทวด
พูดดูเหมือนง่าย แต่จริงก็ยาก แต่ก็ไม่ยากเกิน ถ้าจะทำ ขึ้นกับมุมมองโลก ความมองโลกในแง่บวก หรือลบ
ขึ้นกับใจเราล้วนๆ และการฝึก คนที่มองโลกในแง่ดี ฝึกยิ้มรับพลังบวกไว้